วาง 2 แนวทางแก้ปัญหาผู้กระทบจากเขื่อนราษีไศล

         นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา ณ กุดอีเฒ่า บ้านร่องอโศก ต.เมืองคง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2561 ได้มีการพบปะเกษตรกรและหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา จ.ศรีสะเกษ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้พยายามหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาโดยตลอด
         สำหรับแนวทางให้ความช่วยเหลือนั้น กำหนดเอาไว้ 2 แนวทาง คือ 1.เรื่องการดูแลจ่ายค่าชดเชยความเสียหายให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ให้กรมชลประทาน ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ และ 2.เรื่องการกักเก็บน้ำในพื้นที่ของเกษตรกร โดยส่งเสริมให้ชาวบ้านในพื้นที่ทำแผนฟื้นฟูแก้ไขปัญหา โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐคอยให้คำแนะนำ ด้วยการนำเอาวิถีภูมิปัญญาชาวบ้านร่วมกับความรู้ด้านวิศวกรรมชลประทานมาร่วมกันแก้ไขปัญหา พลิกฟื้นชีวิตดั้งเดิมโดยธรรมชาติ อย่างไม่ทำลายธรรมชาติ สิ่งสำคัญที่สุด คือ ชาวบ้านต้องมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจโดยที่รัฐมีหน้าที่เป็นสถาปนิกในการให้คำปรึกษา


         "ถ้าชาวบ้านมีความเข้มแข็ง เป็นสังคมที่เอื้อเฟื้อกัน และน้อมนำศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา เชื่อว่า จากพื้นที่ที่มีน้ำมากก็จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อีกทั้งจังหวัดที่อยู่ใกล้เขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนา ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พื้นที่อื่นๆที่ประสบปัญหาเดียวกันต่อไป" นายวิวัฒน์ กล่าว
         นอกจากนี้ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้เดินทางไปยังศูนย์เรียนรู้พอเพียงชุมชนเครือข่ายทามมูน ต.หนองแค อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เพื่อร่วมเรียนรู้งานฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าทาม แม่น้ำมูล การพัฒนาอาชีพและการพัฒนาเกษตรยุค 4.0 พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและปรึกษาหารือแนวทางแก้ปัญหาผลกระทบจากเขื่อนราษีไศล เขื่อนหัวนา และเขื่อนลำน้ำชี ครอบคลุมพื้นที่ผลกระทบและผู้ได้รับผลกระทบจริงทุกภาคส่วน